พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำ
ชาติภูมิ
หลวงพ่อวัดปากน้ำเดิม ชื่อ “สด มีแก้วน้อย” เกิดวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๒๗ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเจ้าเจ้าอยู่หัว
หลวงพ่อวัดปากน้ำ เป็นชาวอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรนายเงิน นางสุดใจ มีแก้วน้อย สกุลของท่านทำการค้าขาย มีพี่น้องร่วมมารดา บิดา ๕ คน คือ
ถึงช่วงระยะเวลาหนึ่งเกิดเบื่อหน่ายในฆราวาสวิสัย โดยเกิดธรรมสังเวชขึ้นในใจว่า
“...การหาเงินเลี้ยงชีพนั้นลำบาก บิดาของเราก็หามาอย่างนี้ ต่างไม่มีเวลาว่างกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบหาให้มั่งมีก็เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เข้าหมู่เพื่อนบ้านก็อับอายไม่เทียมหน้าเขา บุรพชนต้นสกุลก็ทำมาอย่างนี้เหมือนกัน จนถึงบิดาเราและตัวเราในบัดนี้ ก็คงทำอยู่อย่างนี้ ก็บัดนี้บุรพชนทั้งหลายได้ตายไปหมดแล้ว แม้เราก็จักตายเหมือนกัน เราจะมัวแสวงหาทรัพย์อยู่ทำไม ตายแล้วเอาไปไม่ได้ บวชดีกว่า...”
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ถือโอกาสบวช หลวงพ่อตั้งใจตั้งแต่ก่อนบวชแล้วว่า “เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชไปจนตลอดชีวิต”
อุปสมบท
หลวงพ่อวัดปากน้ำ อุปสมบทเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๔๔๙ ต้นเดือน ๘ ขณะนั้นอายุย่างเข้า ๒๒ ปี ณ วัดสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีฉายาว่า “จนฺทสโร” พระอาจาย์ดี วัดประตูศาล อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็น พระอุปัชฌาย์ พระครูวินยานุโยค (เหนี่ยง อินฺทโชโต) เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์โหน่ง อินฺทสุวณฺโณ เป็น พระอนุสาวนาจารย์
สมณศักดิ์
อาพาธ - มรณภาพ
หลวงพ่อวัดปากน้ำได้บอกแก่ศิษยานุศิษย์เมื่อายุได้ ๗๐ ปี ว่าอีก ๕ ปี ข้างหน้าท่านจะละสังขาร ต่อมาอีกราว ๓ ปี ท่านเริ่มอาพาธเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องกว่า ๒ ปีเศษ แม้ว่าจะอาพาธ ท่านก็มิได้แสดงอาการรันทดใจใดๆ เลย ท่านยังคงต้อนรับแขกด้วยอาการยิ้มแย้มเสมอ เวลาจะลุกจะนั่งท่านไม่พอใจให้ใครไปช่วยเหลือ ท่านพอใจทำเอง ผู้อื่นคอยตามเพื่อช่วยเหลือเวลาท่านเซไปเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒ เวลา ๑๕.๐๕ น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ ตึกมงคลจันทสร วัดปากน้ำภาษเจริญ สิริอายุได้ ๗๔ ปี ๓ เดือน ๒๔ วัน นับอายุพรรษาได้ ๕๓ พรรษา